“จะทนกับการมีใบหน้าบาน หน้าใหญ่ไปทำไม มาเถอะคะ มาสวยไปพร้อมๆกัน”

หน้าบาน หน้าเหลี่ยม หน้าใหญ่ นับเป็นปัญหาหนักอก หนักใจของคุณผู้หญิงมานมนาม ผู้หญิงบางคนโชคดีหน่อย เกิดมา “หน้าเรียว” จะแต่งหน้า ทำผมทรงไหน ก็ไปรอด

ส่วนผู้หญิงหน้าไม่ได้รูปนี่สิ น่าสงสารยิ่งนัก  เชื่อว่าพวกนางต้องไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่ พลิกแผ่นดินหาวิธีมาทำให้หน้าเรียวสารพัด

ทางสะดวก รวดเร็วที่จะได้รูปหน้าดั่งใจหมายปองที่สุด คงจะหนีไม่พ้น การทำศัลยกรรม ซึ่งวิธีการนี้บอกเลยว่า คุณเลือกทำได้ หากคุณหมอเก่ง และเชื่อใจได้ว่าจะทำให้คุณออกมาสวยหน้าเรียว

วิธีทำให้หน้าเรียว คนเราเกิดมาก็ใช่ว่าจะมีรูปหน้าที่เรียวสวยกันทุกคน เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ และเชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากมีรูปหน้าที่สวยงามกันทุกคนนะค่ะและคงไม่มีใครอยากมีรูปหน้าที่กลมๆ โดยเฉพาะสาวๆที่รักสวยรักงาม ฉะนั้นเราควรหาวิธีการทำให้หน้าเรียวเพื่อที่จะได้มีรูปหน้าที่สวยงาม                                 และเรามีเคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว

วิธีการทำให้หน้าเรียวและวิธีนวดหน้าให้เรียวมาฝากสาวๆกันด้วยนะค่ะ   เคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว

สาวๆ หลายคนเวลามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง  สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดก็คือใบหน้าของเรา  ก็เลยทำให้สาวๆ มีความกังวลในเรื่องน้ำหนักเพราะถ้ามีใบหน้าที่บวมก็จะทำให้สาวๆขาดความมั่นใจในตนเองแต่ถ้าหากสาวๆ อยากมีรูปหน้าที่เรียวก็ลองนำเคล็ดลับที่จะมาบอกในวันนี้ไปใช้ดูนะค่ะ

วิธีทำให้หน้าเรียว
1.รับประทานผักผลและผลไม้แทนขนมขบเคี้ยว   คุณลองเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณที่ชอบทานพวกขนมขบเคี้ยว แล้วลองหันมารับประทานผักและผลไม้แทน การรับประทานผักและผลไม้  ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยคุณในการลดแป้งในอาหารมื้อนั้นได้อย่างง่ายด้วย

2. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์    ควรที่จะงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกประเภท เช่น เบียร์ เหล้า บรั่นดี ไวน์ และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะที่เรารู้ๆ กันดีก็คือแอลกอฮอล์เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการบวมน้ำได้
3. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร   หากคุณเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อย เปลี่ยนใหม่เถอะค่ะหันมาจิบน้ำทีละนิดๆ บ่อยๆ อย่างน้อยก็ให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน เพราะถ้าหากร่างกายของคนเราที่ได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียง ร่างกายก็จะพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้ภายในร่างกายให้ได้มากที่สุด และผลที่ตามมาก็คือการบวมน้ำที่เท้า มือ และที่ใบหน้านั่นเอง

4. ออกกำลังกาย หากเราจะลดน้ำหนักใช้วิธีการควบคุมอาหารอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะถึงยังไงน้ำหนักจะลดลงมากแค่ไหนแต่ก็จะทำให้ผิวหนังของคุณนั้นเหี่ยว ไม่กระชับเต่งตึง และไม่สดใส ]

5. ลดอาหารที่มีรสเค็ม เพราะการที่เรารับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากเท่าไหร่นั้น ก็ยิ่งจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้มากเท่านั้น

6. เสริมแคลเซียมให้ร่างกายมากกว่าที่เคย  ร่างกายของคนเรานั้นในหนึ่งวันต้องแคลเซียมไม่ต่ำกว่า 1,000 มิลลิกรัม เพื่อเข้าไปช่วยในกระบวนการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกายและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะได้ปริมาณแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการนั้นจะต้องดื่มนม 3 แก้ว หรือโยเกิร์ต 800 กรัม หรือจากการรับประทานปลาก็ได้และปลากระป๋องเองก็ให้แคลเซียมได้ดีเหมือนกัน
7. ลดปริมาณพลังงานลงวันละ 500 แคลอรี่  การที่เราจะลดน้ำหนักทุกๆ 0.5 กิโลกรัม คุณจะต้องกำจัดพลังงานให้ได้ถึง 3,500 แคลอรี่เลยทีเดียว

8. บริหารกล้ามเนื้อที่หน้า
–   ฉีกยิ้มกว้าง ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อตึงตัว แล้วจากนั้นให้พูดคำว่า เอ อู ยาว ๆ
–    ต่อไปทำปากจู๋เหมือนอมบ๊วยค้างไว้แล้วนับ 1-5 ในใจ
–  อมลมที่แก้มทีละข้างให้ป่อง ให้ทำสลับกันซ้ายขวา
–  และสุดท้ายให้ฉีกยิ้มทีละข้างซ้ายและขวา พยายามยกมุมปากขึ้นให้มากเท่าที่คุณจะได้